วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2560

แนะนำชุมชนตนเอง ตำบล นาป่า จังหวัดเพชรบูรณ์

ตำบลนาป่า 
อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์

วิสัยทัศน์

นาป่าบ้านดี ชีวีมีสุข
                                


ข้อมูลทั่วไป

ประวัติความเป็นมาของตำบล
ตำบลนาป่านั้น ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2495 โดยรวมพื้นที่ของตำบลชอนไพรและตำบลสะเดียงเข้าเป็นตำบลนาป่า ซึ่งต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยแยกตำบลนาป่าออกมาเพียงตำบลเดียว
สาเหตุที่ชื่อ"นาป่า" เพราะพื้นที่บริเวณที่ตั้งส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ต่อมามีราษฎรเข้ามาแผ้วถางเพื่อทำเป็นที่นาจึงเรียกว่า "นาป่า" ตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบันตำบลนาป่ามีหมู่บ้าน 14 หมู่บ้านได้แก่ หมู่ 1 บ้านนาป่า หมู่ 2 บ้านบง หมู่ 3 บ้านเฉลียงลับ หมู่ 4 บ้านชอน หมู่ 5 บ้านปากน้ำ หมู่ 6 บ้านเฉลียงลับ หมู่ 7 บ้านเฉลียงลับใต้ หมู่ 8 บ้านปากน้ำ หมู่ 9 บ้านกกไทร หมู่ 10 บ้านห้วยเห็น หมู่ 11 บ้านคลองป่าสัก หมู่ 12 บ้านปากน้ำ หมู่ 13 บ้านนาเจริญ และหมู่ 14 บ้านป่าเสน่ห์ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีเทือกเขาเป็นป่าสงวน มีแม่น้ำป่าสักไหลผ่าน มีคลองบงและคลองเฉลียงลับเป็นแม่น้ำแหล่งสำคัญ


ลักษณะภูมิประเทศ
เป็นที่ราบเชิงภูเขา ซึ่งกั้นเขตแดนกับจังหวัดชัยภูมิ มีต้นน้ำจากเขาโนนเสาธง เขาตาดหมอก ไหลผ่านตำบลนาป่า โดยแยกเป็นลำน้ำหลายสาย ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสักด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดเพชรบูรณ์ และกั้นเขตแดนระหว่าง องค์การบริหารส่วนตำบลนาป่ากับองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง

ที่ตั้ง
องค์การบริการส่วนตำบลนาป่า ตั้งอยู่ เลขที่ 18 หมู่ที่ 2 ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ระยะห่างจากที่ว่ากรอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ประมาณ 15 กิโลเมตร มีถนนลาดยางหลักติดต่อกับอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จำนวน 2 เส้นทาง

อาณาเขต
ทิศเหนือ         ติดต่อกับ  ตำบลบ้านโคก และ ตำบลดงมูลเหล็ก
ทิศใต้            ติดต่อกับ  ตำบลตะเบาะ และ ตำบลน้ำร้อน
ทิศตะวันออก  ติดต่อกับ  ตำบลห้วยใหญ่ และ จังหวัดชัยภูมิ
ทิศตะวันตก    ติดต่อกับ  ตำบลชอนไพร และตำบลดงสะเดียง





พื้นที่
ตำบลนาป่า มีเนื้อที่ประมาณ 85,625 ไร่ หรือคิดเป็น 137 ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ปะกอบอาบอาชีพ 56 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่ป่าสาธารณะ 81 ตารางกิโลเมตร



ลักษณะภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศของตำบลนาป่า  แบ่งได้เป็น  3  ฤดู  คือ  ฤดูร้อน  เริ่มประมาณช่วงเดือน
กุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม  ฤดูฝนเริ่มประมาณช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม  และฤดูหนาวเริ่มประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม  อากาศทั้ง 3  ฤดู  ได้รับอิทธิพลจากลมมรสม  2  ชนิด   คือ  มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดพาเอาความร้อนและชื้นมาตำบลนาป่า  ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดเอาความหนาวเย็นจากประเทศจีนลงมา  และเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดเพชรบูรณ์  มีภูเขาล้อมรอบจึงทำให้ตำบลนาป่า  มีอากาศร้อนจัดในฤดูร้อนและหนาวในฤดูหนาว  แต่มีระยะหนึ่งซึ่งฝนจะทิ้งช่วงประมาณ  1-3  สัปดาห์  ช่วงเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคมของทุกปี



แผนที่ลักษณะภูมิประเทศ
ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
แผนที่แสดงอาณาเขตหมู่บ้าน/ตำบลนาป่า

          ผู้บริหาร อบต. นาป่า

 นายชำนาญ  สีฆ้อง                                       นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า       
 นายจำรัส คงมงคล   นางบังอร ทองศรี                รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า
 นายสุนทร  ตาทิพย์                                       เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า   
 นายพรพิชัย  ดิสโร                                       ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า
 น.ส.สกุลยา  วุฒิกนกธำรง                              รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า

สมาชิกสภา อบต.นาป่า


นายวิเชียร แสงมณี       
ประธานสภา อบต.นาป่า
นายยุท คลังเงิน 
รองประธานสภา อบต.นาป่า
นายพรพิชัย ดิสโร
เลขานุการสภา อบต.นาป่า
นายเพ็ง สายโส          
นายวิเชียร แสงมณี         
สมาชิกสภาหมู่ที่ 1 
นายบุญเทียน คำพาณิชย์         
นายประสิทธิ์  สวนหอม
สมาชิกสภาหมู่ที่ 2
นายบุญทำ บุ้งจันทร์              
นายปรีชา  ทองมา       
สมาชิกสภาหมู่ที่ 3
นางสมคิด  ก้อนเทียน              
นายสฤษฏ ดียัง           
สมาชิกสภาหมู่ที่ 4
นายสมหวัง แก้วนิมิตร            
นายสมาน  โทเพชร
สมาชิกสภาหมู่ที่ 5
นายนิตย์ ดวงอุปะ                 
นายองอาจ กองเกิน      
สมาชิกสภาหมู่ที่ 6
นายสมุน  นันตะวงค์     
นายบุญเรือง บุญมา                
สมาชิกสภาหมู่ที่ 7
นายอนุสรณ์  เจริญสาร             
นายวุฒิชัย ผิวยะกา      
สมาชิกสภาหมู่ที่ 8
นายส่วน  พิมเสนา                
นายนิพล ตาทิพย์         
สมาชิกสภาหมู่ที่ 9
นางศิริพร เขาแก้ว                 
นายอุดม คำภู   
สมาชิกสภาหมู่ที่ 10
นายสำราญบุตร สะสม              
นางสาวเสาร์ห้า ผิวยะกา
สมาชิกสภาหมู่ที่ 11
นางกุลวดี แว่นแก้ว                
น.ส.ปุญชรัสมิ์  วีราพรนุวัฒน์
สมาชิกสภาหมู่ที่ 12
นายยุท คลังเงิน          
นายอิสระ คนมาก  
สมาชิกสภาหมู่ที่ 13
นางชุดา พิมดา           
นายสนั่น แก้วดวงดี      
สมาชิกสภาหมู่ที่ 14
นายสา  ศรีฟอง            
นางสวรรณ์  มะณีสอน   
สมาชิกสภาหมู่ที่ 15
นายบุญเรือง กระแส                 
นายสงกราน จันทร์ต้น
สมาชิกสภาหมู่ที่ 16
นางปรัชญาพร ทองอินทร์         
นางปราณี  มูลสี          
สมาชิกสภาหมู่ที่ 17

จำนวนหมู่บ้าน

มีหมู่บ้านทั้งสิ้น 17 หมู่บ้าน ดังนี้
หมู่ที่ 1 บ้านนาป่า                   โดยมี
นายสุนทร   ตาทิพย์                   เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายวิเชียร  แสงมณี                    เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายสถิต    โป้ทอง                     เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 2 บ้านบง                      โดยมี
.ต ปิ่นโทน  คำพาณิชย์              เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายบุญเทียน  คำพาณิชย์            เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายประสิทธิ์   สวนหอม              เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 3 บ้านเฉลียงลับ              โดยมี
นายอดุลย์    นนทะโคตร             เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายบุญทำ   บุ้งจันทร์                เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายปรีชา    ทองมา                  เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 4 บ้านชอน                   โดยมี
นายเจริญชัย   มาพรม               เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายสมคิด  ปิ่นโทน                  เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายธวัฒ    คำมูล                    เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 5  บ้านปากน้ำใต้           โดยมี
นายวิหาร  จำเริญสุข                เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายสมหวัง  แก้วนิมิตร             เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายสมาน โทเพชร                  เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 6 บ้านเฉลียงลับเหนือ      โดยมี
นายสุดใจ ทองสิทธิ์                  เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายกงทอง  แพทย์ชัยโย           เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายนิตย์   ดวงอุปะ                 เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 7 บ้านเฉลียงลับใต้         โดยมี
นายสายันห์  ขุมทรัพย์               เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายสมัน นันตะวงค์                  เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายบุญเรือง บุญมา                  เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 8 บ้านปากน้ำเหนือ        โดยมี
นายเพชรทอง  เจริญสาร           เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายอนุสรณ์  เจริญสาร             เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นางสงกรานต์  เกรียงไกรศักดิ์      เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล

หมู่ที่ 9 บ้านกกไทร              โดยมี
นายศิลชัย   สำเภา                 เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายส่วน  พิมเสนา                 เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
-ว่าง-                                 เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 10 บ้านห้วยเหน          โดยมี
นายทองใบ  มีบาง                  เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายศุภวรรณ  สำเภา              เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายหลอด  พันจันทร์              เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 11 บ้านคลองป่าสัก      โดยมี
นายพงษ์   ขวัญเจริญ              เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นางกำไร พรานช้าง                 เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นางรำพึง  จันทา                    เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 12 บ้านปากน้ำกลาง     โดยมี
นางเรียน  ลานจันทร์               เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นางสมบูรณ์  สุวรรณกุล            เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
.ส ปุญชรัสมิ์  วีราพรนุวัฒน์      เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 13 บ้านนาเจริญ           โดยมี
นายละมัย  โพลังสกุล               เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายถวิล  พูดคล่อง                  เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายยุท  คลังเงิน                     เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 14 บ้านป่าเสน่ห์         โดยมี
นายจำนง    น้อยทอง             เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายจำรัส  กลมกอม               เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
           -ว่าง-                     เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
          หมู่ที่ 15 บ้านน้ำห้อพัฒนา       โดยมี
นายบัวเรียน   ภักดิ์ใส               เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายสา  ศรีพ่อง                       เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นางสวรรณ์  มะณีสอน              เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 16 บ้านเฉลียงลับใหม่      โดยมี
นายลมัด  กระสาย                    เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายสงกรานต์  จันทร์ต้น             เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นายชลาวุธ  มั่งคง                     เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
หมู่ที่ 17 บ้านปากน้ำพัฒนา      โดยมี
นายสมควร  ทาทอน                  เป็น   ผู้ใหญ่บ้าน
นายแสน สุขอ่วม                      เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
นางปราณี  มูลสี                       เป็น   สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล

จำนวนประชากร

ในพื้นที่ตำบลนาป่ามีประชากรทั้งสิ้น 12,693 คน แยกเป็นชาย 6,115 คน หญิง 6,578 คน
จำนวนครัวเรือน 3,829 ครัวเรือน มีความหนาแน่นเฉลี่ย 93 คน/ตารางกิโลเมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2555 : กรมปกครอง)
ศาสนา
พุทธ
สภาพทางสังคม

สถาบันและองค์กรทางศาสนา
วัดในตำบลนาป่า
          วัดสามัคคีธรรม           
          วัดสามัคคีชัย              
          วัดสามสวน               
          วัดเวฬุวนาราม            
          วัดวารีวนาราม            
          วัดป่าสักเรไร              
          วัดปากน้ำ                          
          วัดประทานพร (วัดปากน้ำตะวันตก)                 
          วัดบรมกิตติธรรมิการาม            
          วัดโนนศรีแก้ว             
          วัดเนินอิฐสีเพชรสุริยัญ             
          วัดดาวเรือง                         
          วัดเฉลียงลับ                        
          วัดกุฎีดาว                           
          วัดกกไทร
โรงเรียนในตำบลนาป่า
          โรงเรียนพัชรพิทยาคม              
          โรงเรียนบ้านปากน้ำ      
          โรงเรียนบ้านบง           
          โรงเรียนบ้านนาป่า                 
          โรงเรียนบ้านชอน                  
          โรงเรียนบ้านเฉลียงลับ   
          โรงเรียนบ้านกกไทร                
          โรงเรียนเฉลียงลับวิทยา
 สาธารณสุข
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาป่า                  จำนวน  1         แห่ง
- สถานพยาบาลเอกชน                                         จำนวน   5        แห่ง
- อาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน                              จำนวน  150      คน
   ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- หน่วยบริการประชาชนตำบลนาป่า (ตู้ยามตำรวจ)                   1          แห่ง
- ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อบต.นาป่า                  1          แห่ง
- รถบรรทุกน้ำพร้อมอุปกรณ์                                              1          คัน
 การเกษตร
- ศูนย์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล              1          แห่ง

สภาพเศรษฐกิจ

อาชีพ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ ค้าขาย และรับจ้างทั่วไป



หน่อยธุรกิจในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล
-          ปั้มน้ำมันขนาดเล็ก      แห่ง
-          ปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่     แห่ง
-          โรงงานอุตสาหกรรม    แห่ง
-          โรงสีขนาดกลาง-เล็ก   15  แห่ง

โครงสร้างพื้นฐาน
             การคมนาคม
            - ถนนลาดยาง                                       10                     สาย     
            - ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.)               68                     สาย
            - ถนนลูกรัง                                         109                     สาย
            - ถนนหินคลุก                                         3                      สาย
            - ถนนดิน                                             13                      สาย
             การไฟฟ้า
            - ประชากรมีไฟฟ้าใช้        3,591    ครัวเรือน
             แหล่งน้ำ
            - คลอง                         10                    แห่ง
            - แม่น้ำ                         1                      แห่ง
            - อ่างเก็บน้ำ                   3                      แห่ง
            - สระเก็บน้ำ                   25                     แห่ง
            - ประปาหมู่บ้าน                8                     แห่ง
  
มวลชนที่จัดตั้ง
- คณะกรรมการพัฒนาสตรีตำบลนาป่า         
- กลุ่มทำนานาป่า                       
- กลุ่มชมรมผู้สูงอายุ                              
- กลุ่มกองทุนปุ๋ยตำบลนาป่า                     
กลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้าน                         
- กลุ่มลูกเสือชาวบ้านตำบลนาป่า               
- ศูนย์เยาวชนตำบลนาป่า                 
- เครือข่ายยุติธรรมชุมชน                        
- กลุ่มกองทุนแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) ตำบลนาป่า
- กลุ่มอาสาพัฒนาชุมชนตำบลนาป่า
- กลุ่มอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนตำบลนาป่า
- เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนตำบลนาป่า
- กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขมูลฐาน (อสม.)
- กองทุนสุขภาพชุมชนตำบลนาป่า
- กลุ่มทอผ้าบ้านเฉลียงลับ
- เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์ตำบลนาป่า
- ศูนย์เรียนรู้ชุมชนตำบลนาป่า ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
- ศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนตำบล (ศอช.ต.)
- กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หมู่บ้าน ตำบล


สถานที่ท่องเที่ยว อบต.นาป่า

1.      อุทยานแห่งชาติตาดหมอก
การเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติตาดหมอกนั้นเหมาะสำหรับคนนิยมไพรและชอบบรรยากาศที่ออกแนวแค้มปิ้ง เนื่องจากในอุทยานฯ ยังไม่สะดวกเรื่องอาหารการกินมากนัก แต่ด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เชื่อมต่อมาจากเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ทำให้ที่นี่มีสภาพอากาศที่เย็นสบายตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไปตลอดหน้าหนาว คือ ช่วงเวลาที่เหมาะมาเที่ยวชมน้ำตกตาดหมอก
ภาพจาก http://www.tiewplearn.com/อุทยานแห่งชาติตาดหมอก

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว
          อุทยานแห่งชาติตาดหมอกจัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 87 ของประเทศไทย มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ 181,250 ไร่ หรือ 290 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยผืนป่าอุดมสมบูรณ์บนเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของลำน้ำป่าสักและลำน้ำชี และเป็นพื้นที่ป่ากันชนให้กับผืนป่า ๓ แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่  จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ คือการได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติรอบด้าน เช่น จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองเพชรบูรณ์เบื้องล่าง และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินอันสุดแสนโรแมนติก ถัดจากที่ทำการอุทยานฯ ไปอีก 7 กิโลเมตร ท่ามกลางความสวยงามของพันธุ์ไม้รายล้อม ทั้งต้นพระเจ้าห้าพระองค์ ลำพูป่า แสมดำ กล้วยป่า จันทร์เขียว และเฟิร์นชนิดต่าง ๆ คุณจะได้พบกับน้ำตกตาดหมอก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียวที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงระดับ 750 เมตร สายน้ำที่ไหลจากตาด (หน้าผา) สูง กระทบสู่พื้นล่างกลายเป็นละอองน้ำ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ "น้ำตกตาดหมอก" นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกสองนาง ซึ่งอยู่ทางเดียวกับน้ำตกตาดหมอกไกลเป็นระยะทาง 2,000 เมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่น่าชมอีกแห่งหนึ่ง มีความสูงทั้งหมด 12 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมน้ำตกได้ทุกชั้นภายในหนึ่งวัน แต่ละชั้นมีความสูงระหว่าง 5-100 เมตร




ภายในบริเวณมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่
จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติตาดหมอก
·       จุดชมวิวห้วยน้ำริน
          ชมทิวทัศน์ริมถนนในสวนหย่อมเล็กๆ ริมหน้าผาซึ่งทางอุทยานจัดไว้อย่างน่ารักน่าแวะลงรถมาถ่ายรูปนักเชียว จุดชมวิวชื่อเพราะพริ้งนี้ให้ทิวทัศน์ของทุ่งนาสีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตาตัดสลับกับตัวเมืองเพชรบูรณ์ ถือเป็นจุดที่เหมาะสมกับการชมพระอาทิตย์ตกมากที่สุด
·       จุดชมวิวเนินป่าไผ่




เป็นหนึ่งในสามจุดชมวิวระหว่างเส้นทางการเดินทางไปน้ำตกตาดหมอก
ชื่อบอกอยู่แล้วว่าผืนป่าบริเวณจุดชมวิวตรงนี้เป็นป่าไผ่ กวาดสายตาออกไปเห็นต้นไผ่แข่งกันชูยอดให้สลอน ทิวทัศน์ฉากหลักเป็นภูเขาสีเขียวสดชื่นสลับซับซ้อนจนลับหายไปกับเส้นขอบฟ้า แสดงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในเขตอุทยานฯ เป็นอย่างดี ด้วยมุมมองเข้าหาทิศตะวันออกจึงทำให้เป็นจุดเหมาะเหม็งสำหรับการชมพระอาทิตย์ทอประกายพ้นจากยอดเขาในยามเช้า
·       ลานชมดาว
ภาพจาก http://park.dnp.go.th/visitor/scenicshow.php?id=1293

  ในคู่มือเที่ยวอุทยานฯ บอกว่านี่คือจุดชมดาวบนดินอันงดงาม นั่นหมายถึงอะไรกัน? คำตอบคือดวงดาวยามราตรีแสงไฟจากเมืองเพชรบูรณ์ยามค่ำคืนยังไงล่ะ ระยิบระยับสุดสายตาดั่งดวงดาวบนผืนดิน แต่แน่นอนว่าไม่เพียงดาวบนดินเพราะดาวพราวฟ้าก็เจิดจรัสให้เราตระการตาไม่แพ้กัน อากาศบนลานชมดาวหนาวเย็น เป็นลานโล่งเหมาะกับการกางเต็นท์และทำกิจกรรมหลากหลาย เป็นหนึ่งในจุดชมวิวซึ่งเยี่ยมยอดที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์


น้ำตกในอุทยานแห่งชาติตาดหมอก น้ำตกตาดหมอก และน้ำตกสองนาง เป็น เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและสร้างชื่อเสียงให้กับอุทยานแห่งนี้ น้ำตกทั้งสองแห่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก มีความโดดเด่นไปคนละแบบ
·       น้ำตกตาดหมอก





ภาพจาก http://nonneenun.com/เที่ยว-น้ำตกตาดหมอก-เพชร

น้ำตกตาดหมอก คือ น้ำตกที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาดหมอก  เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง เมื่อสายน้ำหล่นลงมากระทบพื้นล่างจะเห็นเป็นละอองน้ำเล็กๆคล้ายกับสายหมอก  นี่เลยเป็นที่มาของชื่อน้ำตก ซึ่งคำว่า ตาด มีความหมายอีกอย่างหนึ่งว่า หน้าผา นั่นเอง
       
  ต้นกำเนิดจากเขาตาดหมอก เป็นน้ำตกสูงเด่นไหลลงจากหน้าผาสูงมีชั้นเดียวโดดๆ ความสูงประมาณ 200-300 เมตร สายน้ำที่โจนลงมาจากหน้าผาสูงทำให้สายน้ำแตกกระจายเป็นละอองน้ำคละคลุ้งไป ทั่ว ยิ่งในช่วงฤดูฝนที่มีปริมาณน้ำมาก ละอองน้ำจะฟุ้งกระจายจนไม่สามารถยืนอยู่ใกล้น้ำตกได้ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปตามทางถนน 7 กิโลเมตร แล้วเดินลัดเลาะไปตามลำห้วยอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตก ทางช่วงสุดท้ายเป็นทางขึ้นเขาชัน


·       น้ำตกสองนาง
ภาพจาก http://nonneenun.com/เที่ยว-น้ำตกตาดหมอก-เพชร


เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง เพราะสายน้ำจะไหลผ่านโขดหินลดหลั่นกันลงมาทั้งหมด 12 ชั้น แต่ละชั้นสูงต่ำไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ชั้นที่สูงเพียง 5 เมตร และชั้นที่สูงถึง 100 เมตร ไหลลงสู่คลองห้วยบง สู่เขื่อนบ้านเฉลียงลับ สิ้นสุดที่แม่น้ำป่าสัก น้ำตกตั้งอยู่บนเส้นทางเดียวกับน้ำตกตาดหมอก โดยมีทางแยกไปน้ำตกสองนางก่อนถึงน้ำตกตาดหมอก

อุทยานแห่งชาติตาดหมอก ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อที่ประมาณ 181,250 ไร่ หรือ 290 ตารางกิโลเมตร มีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่า เช่น พันธุ์ไม้ ของป่า สัตว์ป่านานาชนิด ตลอดจนทิวทัศน์ ป่า ภูเขา และน้ำตกที่สวยงามยิ่ง สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น บ้านพัก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ - ห้องสุขา ที่จอดรถ ลานกางเต็นท์ เปิดให้บริการบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (ห้วยบง) ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 9 กิโลเมตร


ลักษณะภูมิประเทศ เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นต้นกำเนิดของห้วยน้ำดำ ห้วยผึ้ง ห้วยกกไฮ ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำป่าสัก และลุ่มน้ำชี เป็นผืนป่าเดียวกันกับป่าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่
ลักษณะภูมิอากาศ
โดยทั่วไปอากาศหนาวเย็นในตอนดึกและตอนเช้า ส่วนใหญ่ตอนกลางวันอากาศเย็นสบาย ในฤดูฝนจะมีฝนตกชุกระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนใหญ่ฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นมาก อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในเดือนธันวาคมและมกราคม

สิ่งอำนวยความสะดวก
          ทางอุทยานฯ ยังมีบริการบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวน 3 หลัง แต่ละหลังพักได้ 5 คน ราคาหลังละ 1,000 บาท และมีเต็นท์ให้เช่าพักแรม สามารถพักได้ 2-6 คน ราคา 200-600 บาท

ที่ตั้ง : ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ไปทางตะวันออก 37 กิโลเมตร  ม.16 ต.นาป่า อ.เมือง
ภาพจาก http://nonneenun.com/เที่ยว-น้ำตกตาดหมอก-เพชร

พิกัด 16.386024, 101.268068


การเดินทาง : จากศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ไปทางทิศตะวันออกตามทางหลวงหมายเลข 2271 ถึงบ้านเฉลียงลัระยะทาง 12 กิโลเมตร ถึงสามแยกเลี้ยวขวาไปทางบ้านน้ำร้อน ตามทางหลวงหมายเลข 2275 ประมาณ 200 เมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายขึ้นอุทยานแห่งชาติตาดหมอก ตามเส้นทาง รพช. สายบ้านเฉลียงลับ-ตาดหมอก ระยะทาง 12 กิโลเมตรถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินทางต่ออีก 7 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถ จากนั้นเดินเท้าตามทางเลียบลำห้วยอีก 2 กิโลเมตร ชมความงามน้ำตกตาดหมอกและน้ำตกสองนาง

อัตราค่าเข้าอุทยานฯ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
กิจกรรมที่น่าสนใจในน้ำตกตาดหมอก-น้ำตกสองนาง
เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เที่ยวน้ำตก
ชมทิวทัศน์
ช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการมาท่องเที่ยวน้ำตกตาดหมอก-น้ำตกสองนาง
ตลอดทั้งปี
สอบถามข้อมูลได้ที่ : อุทยานแห่งชาติตาดหมอก โทรศัพท์ 0 5681 0616, 08 1886 5750 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th



2 .      เก็บน้ำเฉลียงลับ



ภาพถ่ายโดยเจ้าของ Blog
นางสาว วรรณพา  พันธุ์แตง


ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว :   ธรรมชาติและสัตว์ป่า
สถานที่ตั้ง :          ม.3 ต.นาป่า อ.เมือง      
latitude :   16.41
longitude : 101.28
รายละเอียด :        อ่างเก็บน้ำเฉลียงลับ เป็นอ่างเก็บน้ำชลประทาน แนวสันเขื่อนยาวประมาณ 2 กิโลเมตร สร้างกั้นลำห้วยเฉลียงลับ อ่างเก็บน้ำเฉลียงลับตั้งอยู่เขต หมู่ที่ 3 ตำบลนาป่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติตาดหมอก ลักษณะจะเป็นทิวเขา โดยอ่างเก็บน้ำนี้มีความจุเก็บกักน้ำ ประมาณ 7.85 ลูกบาศก์เมตร ความยาว 1390 เมตรบริเวณด้านในสุดของอ่างเก็บน้ำจะมีร้านค้าให้บริการ ที่นี่สามารถตกปลาได้เป็นบางจุดที่กำหนด อ่างเก็บน้ำมีทัศนียภาพสวยงาม เงียบสงบ เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

การเดินทาง :        จากตัวอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ มาทางตะวันออกโดยผ่าน ตำบลนาป่า ถนนสาย 2271 ปากน้ำ-เฉลียงลับ ประมาณ 12 กิโลเมตร ถึง สามแยกสุดถนน เลี้ยวซ้ายไปทางตรงข้ามกับ อุทยานแห่งชาติตาดหมอก อ่างเก็บน้ำเฉลียงลับจะอยู่ทางด้านขวาติดถนน


 ปราชญ์ชาวบ้านตำบลนาป่า

ปราชญ์ชาวบ้าน ตำบลนาป่า

ชื่อ - สกลุ
ที่อยู่
กลุ่มภูมิปัญญา
ชื่อภูมิปัญญา
นาย จำลอง จันทรา
เลขที่ 15 หมู่ 3
ภูมิปัญญาด้านพืช
พืชท้องถิ่น  พืชอื่น ๆ
การผลิตปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุ
นาง เลียน ลานจันทร์
เลขที่ 70 หมู่ 2

ภูมิปัญญาด้านผลิตภัณฑ์และการแปรรูป
แปรรูปจากพืช
แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
นาย ดำ ทองผัง
เลขที่ 66 หมู่ 6

ภูมิปัญญาด้านเครื่องมือเครื่องใช้
หัตถกรรม
จักรสานเครื่องมือเครื่องใช้ในครัวเรือน


ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประจำตำบลนาป่า

สมุนไพรจากดอกอัญชัญ

รูปภาพประกอบจาก https://www.gotoknow.org/posts/45928


ชื่อภูมิปัญญา : สมุนไพรจากดอกอัญชัญ
ชื่อ-สกุลเจ้าของภูมิปัญญา : นางพัชณีย์  กาฬะสิน
ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของภูมิปัญญา : บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 1 ตำบล นาป่า อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
หมายเลขโทรศัพท์ : 086-202-6867
ประวัติความเป็นมาของภูมิปัญญา : อัญชัญเป็นสมุนไพรใกล้ตัวสามารถหาได้ในท้องถิ่นปลูกง่ายใช้ประโยชน์ได้มากมายแต่คนส่วนใหญ่มองข้ามและยังมองไม่เห้นคุณค่าหากนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มสามารถทำรายได้ให้กับครอบครัว
วัสดุอุปรณ์ในการสร้างสรรค์ภูมิปัญญา :
1.ดอกอัญชัญ
2.หม้อ
3.น้ำสะอาด
4.ใบเตย
5. น้ำตาลทรายแดง
6.ขวดสำหรับบรรจุ
7.ผ้าขาวบาง
วัตถุดิบในการสร้างสรรค์ภูมิปัญญา :
1.ดอกอัญชัญ
2.ใบเตย
3.น้ำตาลทรายแดง
4.น้ำสะอาด
 ขั้นตอนการผลิต :
1.นำหม้อมาล้างให้สะอาด
2.นำดอกอัญชัญ 1 กิโลกรัมล้างให้สะอาด
3.นำหม้อตั้งไฟใส่น้ำประมาณ 3 ลิตร พอน้ำเดือดใส่ดอกอัญชัญใส่น้ำตาลทรายแดงประมาณ 7 ขีด คนให้น้ำตาลละลาทิ้งไว้ให้เดือดและใส่ใบเตย 3-4 ใบ แล้วยกลงจากเตาทิ้งไว้ให้เย็นใช้ผ้าขาวบางมากรองให้สะอาดและบรรจุขวดแล้วนำไปแช่เย็นเพื่อพร้อมที่จะจำหน่าย
ราคาจัดจำหน่าย : จำหน่ายในราคาขวดละ 10 บาท
คุณประโยชน์ของภูมิปัญญา :
1.ช่วยบำรุงสุขภาพ
2.ต่อต้านอนุมูลอิสระ
3.ทำให้ผมดกดำ
4.ทำให้ระบบขับถ่ายดี
คติ/คุณธรรม/แรงบันดาลใจที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ : เพื่ออยากส่งเสริมสุขภาพของผู้ที่ได้รับประทานให้มีสุขภาพที่ดีและทำให้มีรายได้เสริมในครอบครัว


การทอผ้าด้วยกี่กระตุกบ้านนาป่า
รูปภาพประกอบจาก http://www.thaitambon.com/shop/0131416153-กลุ่มสตรีทอผ้ากี่กระตุกบ้านเฉลียงลับ


ชื่อภูมิปัญญา : การทอผ้าด้วยกี่กระตุกบ้านนาป่า
ชื่อ-สกุลเจ้าของภูมิปัญญา : นาง ยอด อินทร์สอน
 ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 6 ตำบล นาป่า อำเภอ เมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ 67000
หมายเลขโทรศัพท์เจ้าของภูมิปัญญา : 087-1155433
           ประวัติความเป็นมาของภูมิปัญญา
เกิดจากการร่วมกลุ่มของชาวบ้านในหมู่บ้านตั้งกลุ่มทอผ้ากี่กระตุกขึ้นเเละได้ทุนเริ่มต้นจากทุน SML ทำขายในหมู่บ้านของตนเองเเละขายให้กับหมู่บ้านอื่นๆ นำกำไรที่ได้จากการขายมาแบ่งกันเเละนำต้นทุนมาผลิตหมุนเวียนอยู่อย่างนี้
วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ภูมิปัญญา
1.หลอดด้ายค้น
 2.หลา
 3.กง
 4.กี่กระตุก
 5.ฟันหวี
 6.กระสวย

  วัตถุดิบในการสร้างสรรค์ภูมิปัญญา
 1.ด้าย
 2.หมี่หรือหมี่ที่มีลาย
 ขั้นตอนการผลิต
1.นำด้ายสีที่เราต้องการปั่นในหลา เเล้วใส่ที่หลอดพลาสติก
2. เดินเครือด้าย เเล้วก็นำด้ายไปใส่ฟันหวีในฟันหวีจะต้องมี 2 เส้นสลับล่าง-บน ในหนึ่งรู
3.นำฟันหวี หวีม้วนด้ายเเล้วยกม้วนด้ายมาใส่กี่กระตุก
4.เช็ดเครือด้ายที่ใส่ในกี่กระตุกให้มี 2 เส้นในหนึ่งรู สลับล่าง-บน เเล้วเก็บเขา พร้อม ที่จะทอ
5.นำลายหมี่ที่เราหมุนจากกงมาใส่ในกระสวย
6.ทอผ้าเเล้วก็จับลายไปด้วยตามต้องการโดยที่ผ้าซิ่นจะต้องทอให้ได้ 2 เมตร เเล้วทอต่อไปอีกนิดหน่อยเพื่อเผื่อเราตัด พอได้ 2 เมตรเเล้วก็ตัดที่ 2 เมตร เเล้ว ผ้าที่เราทอไว้ ้เราก็สามารถขึ้นลายใหม่ ได้ตามต้องการ

ราคาจัดจำหน่าย
ผืนละ 450-500 บาท
คุณประโยชน์ของภูมิปัญญา
 ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีอาชีพเสริมเเละรู้จักวิธีการทอผ้ากี่กระตุก อีกทั้งยังเป็นการรวมกันสืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าไว้ให้ลูกหลานสืบต่อไป
เเรงบันดาลใจที่จะทำให้งานสำเร็จ
เพื่อที่จะสืบสานวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของไทยเเละผลที่ได้มา คือ เรามีรายได้เสริมจากการทอผ้า

กล้วยทอดป้าบุญเรือน
ภาพประกอบจาก goo.gl/enERQd

ชื่อภูมิปัญญา : กล้วยทอดป้าบุญเรือน
ชื่อ-สกุลเจ้าของภูมิปัญญา : นาง บุญเรือน  เพชรน้อย 
ที่อยู่ หมู่บ้านนาป่า  หมู่ที่  ๑๓ ต.นาป่า      อ.เมือง  จ.เพชรบูรณ์                       
           ประวัติความเป็นมาของภูมิปัญญา
นางบุญเรือน  เพชรน้อย  มีสวนกล้วยอยู่ประมาณ  ๒  ไร่ซึ่งเป็นส่วนกล้วยที่ปู่ ย่า ตา ยาย ปลูกไว้นานแล้ว  ในสมัยตอนที่ ยายขายกล้วยเป็นหวีเป็นเครือยังไม่ได้ทำกิจการค้าขายทอดกล้วยมีชาวบ้านคนหนึ่งเขามาขอซื้อกล้วยเป็นเครือเลยทำให้ยายคิดที่จะทำกล้วยทอดขายจึงนำกล้วยมาทอดเป็นผลิตภัณฑ์ค้นคิดเป็นทอดกล้วยในหมู่บ้าน   ยายจึงค้นคิดที่จะทอดกล้วยขาย ตั้งแต่นั้นมา  ยายเขาก็ขายทอดกล้วยจนมาถึงปัจจุบันและสืบทอดให้นางบุญเรือน  เพชรน้อย ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่  ๒  ของนางบุญเหมือน  เพชรน้อย ผู้ที่สืบทอดการทอดกล้วยมา  ตั้งแต่สมัยนางบุญเรือน  เพชรน้อยยังอายุ  ๒๐ตอนนี้นางบุญเรือน  อายุได้  ๕๐ปีกว่าแล้วเป็นการทอดกล้วยที่ยาวนานมากตั้ง  ๓๐กว่ามาแล้วและนางบุญเรือน  เพชรน้อยได้ถ่ายทอดให้กับลูกสาวของนางลูกสาวของนางบุญเรือน  อายุ  ๑๕ปีก็ได้ฝึกทำการทอดกล้วยจากนางบุญเรือน  ตอนนี้นางบุญเรือนได้ทำการทอดกล้วยขายอยู่กับลูกสาวอยู่ที่  ณ  หมู่บ้านนาป่า  หมู่ที่  ๑๓ ต.นาป่า      อ.เมือง  จ.เพชรบูรณ์                       
วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างภูมิปัญญา
๑.กระทะ
          ๒.กระชอนตักกล้วย
         ๓.ไม่ไผ่เหลากว้าง ๑ ซม ยาว ๗๐ซม  ๒ อันใช้สำหรับเขี่ยกล้วยที่ลงทอดจะไม่ใช้ทัพพี
๔.ตะแกรงกรอง
๕.หม้อรองน้ำมัน
๖.เตา
๗.ถ่านหรือฝืนก็ได้
๘.ถาดใส่กล้วยที่จะนำมาวางขาย
วัตถุดิบในการสร้างภูมิปัญญา
๑.แป้งข้าวเจ้า
๒.แป้งอเนกประสงค์
๓.น้ำตาลทราย
๔.เกลือ
๕.มะพร้าว
๖.น้ำมันสำหรับทอด
๗.น้ำปูน (น้ำปูนเคี้ยวหมาก)
๘.กล้วยน้ำหว่ากำลังห่ามๆ
๙.งาขาว
ขั้นตอนการผลิต
๑.ปลอกกล้วยน้ำว้าและฟานกล้วยตามแนวยาวของกล้วย
๒.ผสมแป้งข้าวเจ้า  แป้งอเนกประสงค์  มะพร้าว  งาขาว  น้ำตาล  เกลือ  น้ำปน  คนให้เข้ากันพอได้ที่แล้วก็นำกล้วยที่ฟานใส่ลงไปให้เข้ากัน
๓.ตั้งกระทะให้ร้อน  พอน้ำมันเดือดก็นำกล้วยลงไปทอดทีละชิ้นนำไม้ไผ่เขี่ยนิดหน่อย            
๔.พักไว้ ๑๕ นาทีพอเหลือสุกก็นำตะแกรงตักขึ้นวางบนหม้อรองพอสะเด็ดนำมันก็วางใส่ถาอขาย
๕.การจัดจำหน่าย  ขายชิ้นละ ๑บาทรายได้ ๕๐๐-๖๐๐บาทต่อวัน
๖.คุณประโยชน์ของภูมิปัญญา  ๑.ทานเป็นอาหารว่างได้๒.ช่วยระบายท้องอืด
๗.ความสำเร็จ  ๑.รายได้เพิ่มในแต่ละวันทำให้มีเงินเก็บ
๘.วิธีการพัฒนาภูมิปัญญา  ๑.พยายามปรับปรุงการเพิ่มจำนวนของแป้ง  น้ำตาล เกลือ มะพร้าว เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี  และได้ใจลูกค้าจากการขายที่ราคาเป็นธรรม
๙.แรงบันดาลใจ  อยากใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และหารายได้เพิ่มเพื่อทุน การศึกษาของลูกเลยอยากทำเพื่อลูก

 มะขามอบแห้งแกะเมล็ด
ภาพประกอบจาก http://www.ecepost.com/viewtopic.php?id=701676014


ชื่อภูมิปัญญา : มะขามอบแห้งแกะเมล็ด
ชื่อ-สกุลเจ้าของภูมิปัญญา : นางลันทม บุญเคน 
ที่อยู่ หมู่บ้านนาป่า  อยู่บ้านเลขที่ 117/4หมู่ที่ 17 ตำบท นาป่า อำเภอ เมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ 6700
ประวัติความเป็นมา
 สนใจในด้านมะขาม ก็เลยคิดทดลองแปรรูปมะขาม ให้มีรสชาติใหม่ ๆได้ทำมะขามอบแห้งเกะเมล็ดมากกว่า 5 ปี ส่งขายในกรุงเทพ เพชรบูรณ์ สุราษฎ์ธานี ฉะเชิงเฉา และตามตลาดทั่วไป

มะขาม
มะขามเป็นไม้เขตร้อน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีแอฟริกาและประเทศ ซูกาน ต่อมามีการนำเข้ามาในแถบแคบา เขตร้อนของเอเชียและประเทศแคบา อเมริกาในปัจจุบันมีมากในเม็กซิโก
ลักษณะเฉพาะ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านสาขา ไม่มีหนาม เปลือกต้นขุรุระและหนา สีน้ำตาลอ่อน ปลายใบและโคนใบบน ประกอบด้วยใบย่อย 10-15 คู่ แต่ละใบมีขนาดเล็กออกตามปลายกิ่งดอกมีขนาดเล็ก ผลเป็นฝักยาว รูปร่างหรือโค้ง ยาว 3-20 สีน้ำตาลเกรียมเนื้อในติดกับเปลือก มีรสเปรี้ยวและหวาน
ประโยชน์ : ส่วนที่ใช้เป็นยาเนื้อในฝักอ่อน  (มะขามเปียก)
สรรพคุณ : 1 แก้อาการท้องผูก ใช้เนื้อแก้หรือมะขามเปียก 10-20 ฝัก หนักประมาณ (10-15) กรัม จิ้มกับเกลือรับประทานหรือใส่เกลือเติมคั่นดื่ม
2 ) แก้อาการท้องเดิน ใช้เปลือกต้น ทั้งสดหรือแห้งประมาณ 1-2 กำมือ 15-30 กรัม ต้มกับนำปูนใส หรือนำรับประทาน
3 ) ถ่ายพยาธิลำไส้
4) แก้ไอขับเสนหะ ใช้เนื้อในฝักแก่หรือมะขามเปียกจิ้มเกลือรับประทาน
การขยายพันธ์ : นิยมขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง ติดตาหรือตอนกิ่งเพราะได้ผลเร็วและไม่ทำให้กลายพันธุ์

ข้อมูลการสัมภาษณ์
คุณค่าทางโภชนาการ  ยอดอ่อนและฝักอ่อนมีวิตามินเอมาก มะขามเปียกรสเปรี้ยวทำให้ชุ่มคอ ลดความร้อนของร่างกายได้ดี เนื้อในฝักมะขามที่แกจัด เรียกว่า มะขามเปียก ประกอบด้วยสารอินทร์หลายตัวทำให้ออกฤทธิ์ ระบายและลดความร้อนของร่างกายได้

วัสดุอุปกรณ์ในการทำมะขามอบแห้ง
- เตาอบ
- ถุงเพ็ก
- เครื่องชีนถุง (เพ็กถุง)
- มีดเคาะเมล็ดมะขาม
- ถาดใส่มะขาม
วัตถุดิบในการทำมะขามอบแห้ง
- มะขามที่เกาะเมล็ดแล้ว
- น้ำเชื่อม
วิธีการทำ
  นำมะขามที่เป็นฝักมะขามแกะเปลือกและนำเมล็ดออกจาก จากนั้นก็นำไปใส่เตาอบประมาณ 10 นาทีเสร็จแล้วก็เอาออกมาพักไว้ให้หายร้อนแล้วนำมาเพ็กใส่ถุงแล้วนำไปจำหน่ายตามท้องตลาด และ ต่างจังหวัด
การจำหน่าย
ขายตามท้องตลาดประมาณถุงละ 20 บาท และส่งขายต่างจังหวัด เช่น กรุงเทพมหานคร สุราษฎ์ธานี ฉะเชิงเฉา เป็นต้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
ได้รายเสริมในครอบครัว   สามารถขยายผลไม้ที่มีอยู่นำมาแปรรูปให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น
ความสำเร็จ
ได้ผลไม้แปรรูปที่มีคุณภาพดี ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อการค้าขาย
การพัฒนา
มีการประดิษฐ์ คิดค้นหาผลิตภัณฑ์แปรรูปรสชาติใหม่ ๆ มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น


น้ำยาล้างจานบ้านนาป่า
ภาพประกอบจาก https://www.pim.in.th/useful-tips/436--55-5000-new-

ชื่อภูมิปัญญา : น้ำยาล้างจานบ้านนาป่า
ชื่อ-สกุลเจ้าของภูมิปัญญา :  นายจำลอง   บุปผาชาติ   นาง  ปิ่น  บุปผาชาติ
ที่อยู่ หมู่บ้านนาป่า  บ้านเลขที่ 123  ม. 13 ต. นาป่า อ. เมือง จ. เพชรบูรณ์
 (1.) ประวัติความเป็นมา
1.1 ประวัติความเป็นมาของเจ้าของภูมิปัญญา
นายจำลอง   บุปผาชาติ  อายุ 62 ปี เกิด 18 เดือนตุลาคม  พ.ศ. 2491 คู่สมรส นาง  ปิ่น  บุปผาชาติ  อายุ 60 ปี  มีบุตร 2 คน  บ้านเลขที่ 123  ม. 13 ต. นาป่า อ. เมือง จ. เพชรบูรณ์  อาชีพผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้า
1.2 ประวัติความเป็นมาของสินค้า
การประยุกต์ใช้มาจากน้ำยาล้างจานโดยซันไลด์  น้ำยาปรับผ้านุ่ม และการคิดค้นสูตรใหม่และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย การทำน้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่มเอง และผลิตการตลาดและการกระจายรายได้ และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

(2.) วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างภูมิปัญญา
          1. ไม้พาย
2. ถัง
3. ฝาปิด
 (3.) วัตถุดิบในการสร้างภูมิปัญญา
1. กรดมะนาว
2. ผงฟอง
3. N 70
4. F 24
5. เกลือ
6. กันเสีย
7. น้ำ
8. สีผสมอาหาร
9. หัวน้ำหอม

(4.) ขั้นตอนการผลิต

            1. กวนเฉพาะ N 70 5-10 นาที
  2. เติมน้ำเกลือที่เตรียม ได้แก่ F 24, กรดมะนาว, กันเสีย, (น้ำ 5 ลิตรผสมผงฟอง), (น้ำ 5 ลิตรผสมสี), น้ำเปล่า กวนอีก 10 นาที
3. เติมน้ำเกลือส่วนที่เหลือ 1 ลิตร และหัวน้ำหอมลงไปกวนอีก 5 นาที
4. พักไว้อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง เพื่อจะให้ฟองยุบตัวแล้วจึงบรรจุขวด

(5.) การจัดจำหน่าย
  1. ราคาส่งขาย 15 บาท ขึ้นไป

(6.) คุณประโยชน์ของภูมิปัญญา
1. ล้างจาน  ล้างรถ
2. ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อให้ผ้าหอม
3.ประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
4. กระจายรายได้การตลาด

(7.) ความสำเร็จ / รางวัลที่ได้รับ       
1. ความภาคภูมิใจ
2. การที่ได้มีกิจการเป็นของตนเอง


(8.) วิธีการพัฒนาคุณภาพภูมิปัญญา
1. มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ
2. คิดค้นทำสูตรใหม่ให้เข้มข้น
3.ทำอย่างมีคุณภาพและสะดวก

(9.) คติ/คุณธรรม/แรงบัลดาลใจที่ทำให้จนประสบผลสำเร็จ
1. ตั้งใจทำวันนี้  เพื่อวันที่ดีในวันข้างหน้า
2. ทำงานสุจริต ขยัน ฝึกฝน
3. มีความพยายามและคิดค้นสูตรใหม่เพื่อเป็นการประหยัดรายได้และช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน


ไม้กวาดทางมะพร้าว  บ้านปากน้ำ
ภาพประกอบจาก http://puechkaset.com/ไม้กวาดทางมะพร้าว


ชื่อภูมิปัญญา : ไม้กวาดทางมะพร้าว  บ้านปากน้ำ
ชื่อ-สกุลเจ้าของภูมิปัญญา :  นาย     พัน      บุตรสะสม    
ที่อยู่ หมู่บ้านนาป่า :  ที่อยู่  140/4  หมู่ที่ 17  ต. นาป่า  อ. เมือง  จังหวัดเพชรบูรณ์
1.)     ประวัติความเป็นมา
1.1 )  ประวัติความเป็นมาของเจ้าของภูมิปัญญา
ชื่อ   นาย     พัน       บุตรสะสม     อายุ  79  ที่อยู่  140/4  หมู่ที่ 17  ต. นาป่า  อ. เมือง  จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบอาชีพ  ทำไม้กวาด
1.2 )   ประวัติความเป็นมาภูมิปัญญาของสินค้า
ไม้กวาดทางมะพร้าวมี   2   แบบ    แบบที่1  แบบธรรมดาไม่มีลวดลาย   แบบที่ 2   แบบเชียงใหม่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์   คนเชียงใหม่มาสอนทำไม้กวาดแบบเชียงใหม่เอง   ส่วนแบบธรรมดาทำเอง

2.)วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างภูมิปัญญา
 (1.) เลื่อย 
 (2.) มีด
 (3.) ตะปู
 (4.) ไขควง
 (5.) คีม
 (6.) ค้อน
(7.) ซากุไร
3.)  วัตถุดิบในการสร้างภูมิปัญญา
(1.) ก้านมะพร้าว
 (2.) เชือกปอ
(3.) ไม้
 (4.) ไม้เดอย

4.)  ขั้นตอนการผลิต

(1.) เอาก้านมาพร้าวมาเหลาใบออกผึ่งแดดไว้ 2 วัน
(2.) เตรียมไม้
(3.) เจาะรูที่ไม้
(4.) เอาไม้เดอยสอดใส่รูที่เจาะเตรียมไว้ส่วนเกินนของไม้เยตัดออก
(5.) เจาะรูเล็กเพื่อที่จะมัดลวดพันกับไม้เดอย
(6.) เตรียมปอแดงขนาดยาว ผ่าครึ่งให้มีเส้นที่เล็กลง
 (7.) นำมาถักเรียงกันเป็นรูปเฝือก มัดด้วยเชือกถักมาประกอบกับด้ามไม้ที่เตรียมไว้มัดด้วยลวดตอกตะปูให้แน่นกันเลือนขึ้น ลง ของไม้กวาด
(8.) เอาเลื่อยตัดส่วนเกินของปลายมะพร้าวออก

5.)  การจัดจำหน่าย
ปลีก- ส่ง  5 อัน  100 บาท  ขายย่อย  อันละ 25 บาท
ส่งร้านดวงเดือน และร้านค้าตามชุมชน  โรงเรียน 
6.) คุณประโยชน์ของภูมิปัญญา
ใช้กวาดตามลานบ้าน , กวาดถนน
7.) ความสำเร็จ / รางวัลที่ได้รับ
มีรายได้, มีวิชาชีพติดตัวสามารถถ่ายทอดภูมิปัญญาทำไม้กวาดทางมะพร้าวให้กับผู้ที่สนใจ
8.) วิธีการพัฒนาคุณภาพภูมิปัญญา
ไปสอนนักเรียนในโรงเรียนต่างๆเป็นประจำทุกๆอาทิตย์ สอนให้แก่ชาวบ้านผู้ที่สน
9.)คติ/ คุณธรรม/แรงบันดาลใจที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ
เป็นงานอดิเรกใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

หมูหวานและหมูสวรรค์  บ้านนาป่า
ภาพประกอบจาก https://หม่าล่า.com/2016/08/29/หมูสวรรค์ซอสหม่าล่า

ชื่อภูมิปัญญา : หมูหวานและหมูสวรรค์  บ้านนาป่า
ชื่อ-สกุลเจ้าของภูมิปัญญา : นางกาญจนา       แก้วตา
ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของภูมิปัญญา : อยู่บ้านเลขที่  78/1  หมู่ 13  ต.นาป่า  อ.เมือง    จ.เพชรบูรณ์
ประวัติความเป็นมาของภูมิปัญญา
1.   ประวัติความเป็นมา
ความเป็นมาของภูมิปัญญาได้มาจากหนังสือแล้วมาดัดแปลงคิดสูตรขึ้น
มาใหม่แล้วนำสองสิ่งนั้นมาทำรวมกันก็ได้เป็นสูตรของตัวเอง
1.1   ประวัติความเป็นมาของเจ้าของภูมิปัญญา
ชื่อ    นางกาญจนา       แก้วตา   อายุ  44 ปี
เกิดวันที่   19  กรกฎาคม   พ.ศ.  2509     อยู่บ้านเลขที่  78/1  หมู่ 13  ต.นาป่า  อ.เมือง    จ.เพชรบูรณ์ มีคู่สมรส    นายหลุย      แก้วตา    อายุ  47 ปี     มีบุตร  2  คน   คือ  นางสาว   นิภาพร       แก้วตา      ด.ช    นฤชร      แก้วตา

1.2   ประวัติความเป็นมาของสินค้าภูมิปัญญา
คิดเองทำเอง  นำมาจากหนังสือบ้าง  แล้วนำมารวมกันก็เลยเป็นสูตรนี้ ขึ้นมา

2.      วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างภูมิปัญญา
อุปกรณ์    เครื่องมือเครื่องใช้ภายในครัวเรือน
          1. หม้อ    2. กระทะ   3. มีด   4. ถาด   5.  จานและชาม    6. เตาถ่าน 
7. เขียง    8. กล่องบรรจุหรือภาชนะ    9. ทัพพี
3.      วัตถุดิบในการสร้างภูมิปัญญา
วัตถุดิบ
 หมูหวาน    1. หมู    2. น้ำตาล   3. เกลือ   4. ซีอิ้วขาว   5. น้ำมัน
หมูสวรรค์   1. หมู   2. น้ำตาล   3. เกลือ   4. ซีอิ้วขาว   5. ลูกผักชี  6. น้ำมัน
         4. ขั้นตอนการผลิต
วิธีการทำ
1.    ซื้อหมูสันนอกมาเตรียมวัตถุดิบต่างๆและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ให้พร้อม
2.    นำหมูที่ซื้อมา  นำมาต้มให้สุกพร้อมดี
3.    แล้วนำหมูที่ต้มสุกแล้วลงพักไว้แล้วนำมาทุบให้เป็นแผ่น
4.    พอเป็นแผ่นเสร็จแล้วนำมาชีกให้เป็นชิ้นเล็กๆ
5.    แล้วนำหมูที่ชีกเสร็จมาคุกกับน้ำตาล   ซีอิ้วขาว และ เกลือ ( ลูกผักชี )
6.    แล้วนำหมูที่คุกเค้ากันมาทอด
7.    ทอดเสร็จแล้วนำมาเสด็จน้ำมันพักไว้ให้เย็น
8.    นำมาบรรจุใส่กล่อง
9.    มาครอบพลาสติกติกป้ายคนขายเสร็จ
10. แล้วนำมาบรรจุใส่ถุงใหญ่แล้วนำไปส่งขายได้เลย

5.การจัดขาย
จำหน่ายในราคา  40 บาท    ปลีก-ส่ง
ส่งขายในราคากิโลกรัมละ 300 บาท      ปลีกหรือแพ็กละ 80 บาท

6. คุณประโยชน์ของภูมิปัญญา
6.1 รับประทาน
6.2 ซื้อเป็นของฝาก
7. ความสำเร็จ/รางวัลที่ได้รับ
-
8. วิธีการพัฒนาคุณภาพปัญญา
พัฒนาสูตรให้ดีขึ้นและศึกษาพัฒนาสูตร
9. คติ/คุณธรรม/แรงบันดาลใจที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ/สุจริตไม่โกงลูกค้าเพราะนำรายได้มาเลี้ยงครอบครัว


สินค้า OTOP ตำบลนาป่า

       ผ้าทอกี่กระตุก

 
ภาพจาก ไทยตำบล
        ผลิตภัณฑ์ผ้าทอกี่กระตุก ทอด้วยความประณีต สวยงาม มีให้เลือกมากมาย เช่น ผ้าขาวม้า ผ้าถุง ผ้ามัดหมี่ลายต่าง ๆ เช่น ลายดอกพิกุล ลายราชวัตร ผ้าพื้น ผ้าตัวหนังสือ และผ้าไหมต่าง ผ้าพันคอ ผ้าฝ้ายตัดเสื้อ ผ้าห่มไหมพรมลายสอง

สถานที่จัดจำหน่าย
กลุ่มสตรีทอผ้ากี่กระตุกบ้านเฉลียงลับ
 68 หมู่ 7 บ้านเฉลียงลับใต้ ต.นาป่า อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ 67000
ติดต่อ : นางบุญมี สายทองเพ
โทร :  056 740070

1.      ประวัติความเป็นมาของสินค้า
ครั้งแรกก็ได้ทำไว้ใช้ในครัวเรือนแต่ละหลัง ต่อมาก็ได้นำไปออกจำหน่ายตามหมู่บ้าน  อำเภอ จังหวัด  และต่างประเทศ
2.วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างภูมิปัญญา
- เตาถ่าน    หม้อ    ปีบ   เข็ม   เครื่องทอ
3.วัตถุดิบในการสร้างภูมิปัญญา
- เส้นด้าย  ใยไหม  สียอม
4. ขั้นตอนการผลิต
- นำไหมมาย้อมให้เป็นสีตามต้องการแล้วนำมามัดรวมกับเส้นด้ายให้เป็นลวดลายตามต้องการช็กี่กระตุกโดยใช้ด้ายสอดไปมากระตุกออกมาเป็นผ้าและไหมผลิตออกเป็นลายสีสันต่างๆ
5. การจัดจำหน่าย
- ได้จักจำหน่ายที่กลุ่มทอผ้า  บ้านเฉลียงลับ
  86  หมู่ 7 บ้านเฉลียงลับใต้  ตำบลนาป่า  อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์  67000
                     และงาน  ( OTOP )  ราคาผืนละ 150 บาท
6. คุณประโยชน์ของภูมิปัญญา
- ได้ฝึกการสร้างความสามัคคีรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และมีรายได้เข้ามาในหมู่บ้าน
                   7. ความสำเร็จ/รางวัลที่ได้รับ
ได้รับรางวัลมาตราฐาน  4  ดาว และได้รับรางวัลชนะเลิศ การแข่งขันทอผ้าตัวหนังสือ




อาหารขึ้นชื่อของตำบลนาป่า


                                         หมูอบโอ่ง
ภาพประกอบจาก https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=peterpen&month=16-09-2012&group=3&gblog=2

ภาพประกอบจาก http://lekkathaifood.blogspot.com/2011/07/blog-post_3016.html


เนื้อ หมูเป็นกับข้าวขาประจำครัวมานาน ต้ม ผัด แกง ทอด กินกันแทบทุกมื้อ จนหลายคนมองข้าม ค่าที่พบเจอกันอยู่บ่อยๆ จึงมีผู้คิดดัดแปลงให้น่ากินขึ้น น่าสนใจขึ้น และที่สำคัญคืออร่อยขึ้น
กลุ่มสตรีแม่บ้านตำบลนาป่า อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นำเนื้อหมูใส่โอ่งอบวางขาย เป็นอาหารรสเยี่ยมของชาวบ้านในตำบลและย่านใกล้เคียง จนกระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งจังหวัด เพราะรสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร ต่างจากเนื้อหมูทั่วๆ ไป
นายชำนาญ ศรีฆ้อง นายกอบต.นาป่า เจ้าของตำรับหมูอบโอ่ง บอกวิธีทำว่า จัดหาโอ่งมังกรมา 1 ใบ ติดราวไว้ด้านใน ขดลวดงอเป็นรูปตัวเอส (S) เป็นวงกลมห้อยไว้รอบปากโอ่ง
จุด เตาถ่านอั้งโล่ ตั้งไว้ด้านในโอ่ง เนื้อหมูที่นำมาทำมีหลายชนิด ทั้งหมูสามชั้น เนื้อติดซี่โครง เนื้อติดมัน แต่ละวันใช้ประมาณ 20 กิโลกรัม วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูกค้า
หั่น หมูเป็นชิ้นยาวประมาณ 4-5 นิ้ว หนาประมาณครึ่งนิ้ว เสียบกับขดลวดแขวนไว้รอบๆ โอ่ง ปิดฝาโอ่งให้สนิท ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หมูอบก็สุกส่งกลิ่นหอมฟุ้ง เปิดดูเป็นสีเหลืองชวนกิน
นำขึ้นจากโอ่งหั่นเป็นชิ้นๆ กินกับน้ำจิ้มที่ทำแบบง่ายๆ เทน้ำสุกใส่ถ้วย บีบมะนาว ซอยพริกขี้หนู กระเทียม เกลือ น้ำตาลทรายเล็กน้อย
ด้วย รสชาติไม่ธรรมดาของหมูอบโอ่งแม่บ้านนาป่า ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้ชิม ไม่เพียงมาซื้อไปกินที่บ้าน ยังมีที่สั่งไปเลี้ยงกันในงานสังสรรค์ งานแต่งงาน งานบวช ขึ้นบ้านใหม่ ถึงขนาดโรงแรมระดับ 5 ดาวก็ยังสั่งมา ได้รับความนิยมไม่แพ้ไก่ย่างวิเชียรบุรี อาหารชื่อดังของเพชรบูรณ์

ต่อ ไปอาจจะขยายตลาดไปกว้างไกลกว่านี้ เพราะอบต.กำลังประสานงานกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ คิดหารูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อส่งไปจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งขายนักท่องเที่ยว คาดว่าน่าจะสร้างรายได้ให้กลุ่มแม่บ้านไม่น้อย
เป็นอีกหนึ่งความแปลกใหม่ จากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย


วัฒนธรรมประเพณี



ประเพณี มหาสงกรานต์ สืบสานบุญบั้งไฟ
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.napa.go.th

      สถานที่จัดงาน ณ วัดเวฬุวนาราม   จัดขึ้น ในวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี เป็นงานประจำตำบลนาป่า มีขบวนแห่นางบั้งไฟตั้งแต่หมู่บ้านปากน้ำ จนถึง หมู่บ้านเฉลียงลับ ในงานกิจกรรมมีการประกวดเทพีบั้งไฟ, ประกวดบั้งไฟ, และประกวดขบวนแห่ประจำหมู่บ้าน ในงานก็จะมีร้านค้ามากมาย ให้ผู้ร่วมงานได้จับจ่ายและเพลิดเพลินไปกับงานประประจำตำบลนาป่า


ผู้จัดทำ

นางสาว วรรณพา พันธ์ุแตง
รหัสนักศึกษา 4912415016
สาขา บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์



บรรณานุกรม
ตำบลนาป่า - สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ – กรมส่งเสริมการเกษตร.  (2560). (ออนไลน์). แหล่งที่มา : mueang.phetchabun.doae.go.th/p-p10%2057-59.doc.  (วันที่สืบค้น 6 กันยายน 2560).

เที่ยวเพชรบูรณ์.  (2560).  อ่างเก็บน้ำห้วยเฉลียงลับ.   (ออนไลน์).  แหล่งที่มา : http://www.tourphetchabun.com/tour/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=41.  (วันที่สืบค้น 6 กันยายน 2560).

ไทยตำบล.  (2560).  ข้อมูลตำบลนาป่า อำเภอเมือง เพชรบูรณ์.  (ออนไลน์).  แหล่งที่มา :   http://www.thaitambon.com/tambon/670111.  (วันที่สืบค้น 6 กันยายน 2560).

น้ำตกตาดหมอก-น้ำตกสองนาง.  (2560).  (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction-more/petchaboon/น้ำตกตาดหมอก-น้ำตกสองนาง.html.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

บ้านเฉลียงลับ.  (ออนไลน์).  แหล่งที่มา :  https://www.l3nr.org/posts/457754.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

บ้านนาป่า.  (ออนไลน์).    แหล่งที่มา  https://www.l3nr.org/posts/534781.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

แผนพัฒนาสามปี. (2560).  (ออนไลน์). แหล่งที่มาhttp://napa.go.th.a33.readyplanet.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=539617242&Ntype=12.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

มลนิภา บัวทอง(2560).   โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องกล้วยทอดป้าบูญเรือน บ้านนาป่า.   (ออนไลน์).   แหล่งที่มา :  https://www.l3nr.org/posts/461024.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

มุกดาพรรณ  ถิ่นน้ำใส และวราภรณ์   ปานแก้ว(2560).  โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องกลุ่มสตรีทอผ้ากี่กระตุก

ศุภชีพ เรืองเจริญ(2560)การเผยแพร่ข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ เรื่องสมุนไพรจากดอกอัญชัญ.  (ออนไลน์)แหล่งที่มา :  https://www.l3nr.org/posts/535261.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).


สุนิตรา สมศักดิ์ดี(2560). โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องน้ำยาล้างจาน บ้านนาป่า.  (ออนไลน์).  แหล่งที่มา :  https://www.l3nr.org/posts/460802.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).


สุพรรณี มูลสี(2560). โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องมะขามอบแห้งเกะเมล็ด บ้านปากน้ำ.  (ออนไลน์).     แหล่งที่มา :  https://www.l3nr.org/posts/461008.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเพชรบูรณ์.  (2560).  ภูมิปัญญาชาวบ้าน สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเพชรบูรณ์.   (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://mueang.phetchabun.doae.go.th/index1.html.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560). 

เส้นทางเดินป่า อุทยานแห่งชาตน้ำตกตาดหมอก.  (2560).  (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://phetchabun.org/ที่เที่ยวเพชรบูรณ์/901/amp . (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

หมูอบโอ่งนาป่า สูตรเด็ดกลุ่มแม่บ้าน.  (2560).  (ออนไลน์).  แหล่งที่มา : http://www.food4change.in.th/w/index.php/news/75--.html?fontstyle=f-default. (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

องค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์.  สถานที่ท่องเที่ยว อบต.นาป่า.   (ออนไลน์).  แหล่งที่มา : http://napa.go.th.a33.readyplanet.net/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=14.  (วันที่สืบค้น 6 กันยายน 2560).

อ่างเก็บน้ำเฉลียงลับ.  (2560).  (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://info.dla.go.th/public/travel.do?cmd=goDetail&id=503915&random=1505808842473.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

อุทยานแห่งชาติตาดหมอก.  (2560)(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.tiewplearn.com/อุทยานแห่งชาติตาดหมอก(วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

อุทยานแห่งชาติตาดหมอก.  (2560).  (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/อุทยานแห่งชาติตาดหมอก--4833.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

Ratchanok Krasong.  (2560)การเผยแพร่ข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ เรื่องการทอผ้าด้วยกี่กระตุก


Sineenat rukyu . (2560).   โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องหมูหวาน หมูสวรรค์ https://www.l3nr.org/posts/460819.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

Supunsa Teunto .  (2560)โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องไม้กวาดทางมะพร้าวบ้านปากน้ำ (ออนไลน์)  แหล่งที่มา : https://www.l3nr.org/posts/460796.  (วันที่สืบค้น 19 กันยนยน 2560).

3 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อหาดีมากค่ะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ5 ธันวาคม 2566 เวลา 00:34

    รู้จะกคนชื่อนายสมหมาย อินตาถึงมั้ยคะ ตามหาพ่อคะ

    ตอบลบ

แนะนำชุมชนตนเอง ตำบล นาป่า จังหวัดเพชรบูรณ์

ตำบลนาป่า  อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ วิสัยทัศน์ นาป่าบ้านดี ชีวีมีสุข                                  ข้อมูลทั่วไ...